สุดยอดเครื่องบินจารกรรมในอนาคต


Black Aircrafts

ยานบินประหลาดลอยผ่านท้องฟ้า มันคือยูเอฟโอจากโลกอื่นหรืออาวุธลับทางสงคราม มันมีลักษณะรูปทรงสามเหลี่ยมที่แหลมคมและสามารถบินผ่านท้องฟ้าได้เร็วกว่า ยานบินลำไหนๆ หรือมันเป็นเศษเสี้ยวของความสำเร็จที่หลงเหลือจากสงครามเย็นหรือไม่

ความจริงเบื้องหลังของความลับ มันคือ ยานบินล้ำสมัยแห่งอนาคตที่ถูกพัฒนาอย่างลับๆ ซึ่งมีชื่อว่า แบล๊ค แอร์คราฟต์ (Black Aircrafts) ที่ฐานบินอันห่างไกลในทะเลทรายแคลิฟอร์เนีย เครื่องบินทดลองที่เรียกว่า โลว์ไฟลต์ (Low flight) ย่อมาจากคำว่า การทดสอบการบินต่ำ ถูกออกแบบมาเพื่อให้ก้าวไปไกลจากการบินแบบซุปเปอร์โซนิกหรือเร็วกว่าเสียง ไปเป็นไฮเปอร์โซนิก ซึ่งเร็วกว่าเสียง 5 เท่า ที่ความเร็ว 3,600 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือหนึ่งไมล์ต่อวินาที และจะเร็วกว่ากระสุนปืนไรเฟิล 2 เท่า

เมื่อนาซา และกองทัพอากาศสหรัฐเผยแบบจำลองไฮเปอร์โซนิกแบบทดลองนี้ในปี 1996 มันทำให้ทั่วโลกสงสัยว่าเครื่องบินเช่นนี้เคยบินอย่างลับๆ มาตลอดหรือไม่ ในบันทึกของสหรัฐมีการพัฒนาเครื่องบินดำ เมื่อประมาณปี 1950 มันเป็นเครื่องบินสอดแนม SR71 แบล๊คเบิร์ด (Blackbird) ที่ออกแบบเพื่อ CIA


SR71- Blackbird

มันถูกสร้างให้บินได้เร็วกว่าความเร็วเสียงถึงสามเท่า และจะเผยต่อสาธารณชนในปี 1964 ด้วยการโฉบเฉี่ยวบนท้องฟ้าด้วยความเร็ว 3,000 ฟุตต่อวินาที สูงจากพื้นโลก 16 ไมล์ แบล๊คเบิร์ดสามารถซ่อนเร้นจากเครื่องบินรบและขีปนาวุธของฝ่ายตรงข้ามได้ เมื่อแบล๊คเบิร์ดถูกปลดประจำการเมื่อปี 1990 จากกองทัพอากาศสหรัฐ มันยังครองสถิติเครื่องบินที่บินเร็วที่สุดในโลก

นอกจากนั้น กองทัพสหรัฐยังได้พัฒนาเครื่องบินสอดแนมอีกลำหนึ่งที่บินได้เร็วกว่า ชื่อรหัสว่า ออโรร่า (the Aurora) จน ถึงวันนี้ กองทัพสหรัฐยังคงปฏิเสธการมีตัวตนของออโรร่าเช่นที่เคยปฏิเสธการมีตัวตนของ เครื่องบินรบสเตลธ์ ก่อนจะบินออกไปทำสงครามในปี 1989 และกลายเป็นดาวเด่นของปฏิบัติการพายุทะเลทรายด้วย การจู่โจมอันแม่นยำในเวลากลางคืนต่อเป้าหมายอิรัก


เครื่องบินอีกลำหนึ่งที่อยู่ในโครงการลับออโรร่า

เครื่องบินรบสเตลธ์ F-117 คืออาวุธลับของอเมริกา คนที่บินเครื่องบินรบสเตลธ์ไม่ลังเลที่จะบอกว่าทำไมมันจึงพิเศษ ด้วยลักษณะของสเตลธ์ รูปทรง องศาและการไม่มีร่องรอยความร้อนบนเครื่อง ทำให้ยากที่ขีปนาวุธอินฟราเรดจะตรวจพบ และในอนาคตของเครื่องบินสเตลธ์แบบไม่ใช่นักบินจะยิ่งใหญ่ ยุคใหม่ของเครื่องบินไร้นักบิน หรือที่เรียกว่า UAVS จะถูกใช้เพื่อการจู่โจมภาคพื้นในอีกสิบปีข้างหน้า

Unmanned Aerial Vehicles (UAVS)
คณะกรรมการที่ ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของกองทัพ คาดเดาว่าเครื่องบินไฮเปอร์โซนิกแบบไร้นักบินจะสามารถบินได้เร็วกว่า 11,000 ไมล์ต่อชั่วโมง ในปี 1998 นาซาดำเนินการทดสอบเครื่องบินไฮเปอร์โซนิกไร้นักบินแบบทดลองที่ชื่อ ไฮเปอร์เอ็กซ์ มันได้สร้างความท้าทายอย่างใหญ่หลวงให้กับวิศวกรการบิน การสร้างระบบที่สามารถทนต่อความร้อนมหาศาลที่เกิดจากการเสียดสีขณะที่ เครื่องบินทะยานผ่านอากาศ การเสียดสีอันเกิดจากแรงลากของอากาศสร้างความร้อนมากพอที่จะละลายโลหะได้ เครื่องบินที่บินมัค 12 จะต้องทนอุณหภูมิที่สูงถึง 2,500 องศาเซลเซียล


Hyper-x

เทคโนโลยียานบินของสหรัฐก้าวกระโดดตั้งแต่เหตุการณ์จานบินตกที่รอสเวลล์

ที่มาของบทความ : artsmen

Comments are closed.