@JDev – Blog

ที่เจอในขณะนี้ผมเจอทุกเกมส์ที่เล่นบน Facebook
An error occurred with MapleStory Adventures. Please try again.
An error occurred with Monster World. Please try again.

หรือเป็นเกมส์อะไรก็แล้วแต่ ที่ต้อง render เอาจำนวนรายชื่อเพื่อนมากๆ ขึ้นมาแสดงมันจะมี error ดังข้างต้นขึ้นมา อาจจะเกิดจากปัญหาระหว่าง เรากับ Server ต้นทางที่ห่างกันมาก จึงทำให้
ต้นทาง – ปลายทาง และปัญหานี้มักจะเป็นกับผู้ที่มี รายชื่อเพื่อนเยอะ มากกว่า 1000 คนขึ้นไป

วิธีแก้ปัญหา (ของผม)
ให้เอารายชื่อเพื่อนเราออก (คัดดีๆ นะครับ เดียวเพื่อนซี้ หรือคนสนิทใกล้ชิดเราจะหาย จะหาว่าผมไม่เตือน อิอิ) ให้เหลือไม่ถึง 1000 รายชื่อ

เพียงเท่านี้ปัญหานี้ก็หายไปแล้วครับ

เพื่อนๆ ลองเอาไปแก้ปัญหาดูครับ ได้ผลยังไง บอกผมด้วยนะครับ เผื่อว่าบางที บางคนอาจจะแก้ปัญหาไม่ได้ก็อาจเป็นได้

ขอบคุณครับ

ผู้ใช้ และ ผู้พัฒนา Web site หลายๆ คนคงเริ่มคุ้นหูกับคำว่า Semantic Web หรือ Semantic Technology กันบ้างแล้ว แต่ยังคงมีอีกหลายคนที่ไม่คุ้นหู ไม่รู้จัก และไม่เข้าใจ( รวมทั้งผมด้วย อิอิ ) ว่า Semantic คืออะไร และมีบทบาทเกี่ยวของกับ Web Technology ได้อย่างไร ถ้าอย่างนั้น เราจะมาลองทำความรู้จัก Semantic Web คร่าวๆ ไปด้วยกันเน้อ ^^”

Semantic Web คืออะไร
ลักษณะ ที่เรียกว่า Semantic Web คือ เทคโนโลยีที่ใช้ในการ จัดเก็บ และ นำเสนอเนื้อหาแบบมีโครงสร้าง รวมถึง สามารถที่จะ วิเคราะห์ จำแนก หรือจัดแบ่งได้ว่า ข้อมูลที่ปรากฏนั้น มีความสัมพันธ์ กับข้อมูลอื่นๆในแต่ละระดับ อย่างไร กล่าวคือ เป็นการจัดเก็บและนำเสนอ แบบมี Hierarchy นั่นเอง

ประเด็นหลักที่ทำให้เกิดการพัฒนา Semantic Web ก็คือ สาเหตุ จากการที่ Web ในปัจจุบันที่บางคนเรียกว่า เป็น Syntactic หรือ Hypermedia Web มีปัญหาในเรื่องของ Information overload เพราะว่าข้อมูลที่เราสืบค้นมาได้ นั้นผลลัพธ์ที่ได้ ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ และ ไม่สะดวกในการที่จะนำไปใช้ต่อ เพราะการค้นหา ด้วย Keyword ทั่วๆไป Machines ไม่สามารถทำความเข้าใจ และ ประมวลความหมาย หรือความสัมพันธ์ของคำนั้นๆได้อย่างตรงประเด็น ผลของการสืบค้นที่ได้กลับมา จึงเป็นการ Return ทุกๆเรื่องที่มีคำๆนั้น และสร้าง Hyperlink เพื่อให้เราเชื่อมโยงไปยังข้อมูล โดย เราไม่รู้ว่า นั่นคือคำที่อยู่ในเรื่องซึ่งเราต้องการหรือไม่

แนวทางของ Semantic Web ที่ช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว ก็คือ Semantic Web มีการ Provide Common framework ซึ่งทำให้ข้อมูล สามารถ share และ reused ข้าม Application หรือ Community ที่มีการระบุขอบเขต ได้ โดยที่ Machines สามารถเข้าใจองค์ประกอบของข้อมูล ซึ่งมีการแนบ Domain theory (เช่น รูปแบบของการอ้างอิง Class แม่ ของข้อมูล) รูปแบบนี้ เราอาจเรียกว่าเป็น Ontology ซึ่งสามารถบอกระดับความสัมพันธ์ของข้อมูลได้

ผลลัพธ์ก็จะได้ประมาณ พอได้มาแล้วก็จะเป็นข้อมูลที่ตรงกับเราที่สุด ไม่ใช่พอ key ข้อมูลที่ต้องการหาแล้วได้อะไรมาไม่รู้ กว่าจะเจอข้อมูลที่เราต้องการก็ปาไปหน้าที่ 3 4 แล้ว

พอดีได้ลองเขียน function ของ Mysql ก็แนวใน Oracle ครับ แต่ คำสั่งจะต่างกันบ้าง ก็เลยค่อยๆ เอามาลงเก็บไว้เป็น knowlelge-based และจะเอามาลงในนี้เรื่อยๆ เท่าที่ได้ลอง

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46

- CONCAT : อันนี้ใช้คำนี้กันเกือบทุกภาษาครับไม่มีปัญหาการใช้เท่าไหร
เช่น
mysql> SELECT CONCAT('FIRST ', 'SECOND');
mysql> SELECT CONCAT(id, name, work_date) FROM employee_tbl;
 
- LPAD : ใช้คืนค่า sentence ที่มีขนาดจำนวนตัวอักษรเท่ากับ length
function:LPAD(sentence,length,word)
content:ใช้คืนค่า sentence ที่มีขนาดจำนวนตัวอักษรเท่ากับ length
	โดยถ้ามีน้อยกว่าก็จะเพิ่มค่าของ word เข้าไปทางซ้ายจนกว่า sentence จะมีจำนวนตัวอักษรเท่ากับ length
example:SELECT LPAD(199,4,0)
 
- DATE_FORMAT : ใช้จัดรูปแบบวันที่ให้เป็นไปตาม format ที่กำหนด
function:DATE_FORMAT(date,format)
content:ใช้จัดรูปแบบวันที่ให้เป็นไปตาม format ที่กำหนด
โดย format มีค่าที่เป็นไปได้ ดังนี้
	%W แทนความหมาย ชื่อวันภาษาอังกฤษ (Sunday,...,Saturday)
	%a แทนความหมาย ชื่อวันภาษาอังกฤษ (Sun,...,Sat)
	%b แทนความหมาย ชื่อเดือนภาษาอังกฤษ (Jan,...,Dec)
	%w แทนความหมาย วันที่ของสัปดาห์ (0,1,...,6) โดย 0 เริ่มจาก วันอาทิตย์
	%j แทนความหมาย วันที่ของปี (001,002,...,366)
	%D แทนความหมาย วันที่ตามด้วย suffix ภาษาอังกฤษ (1st,2nd,3rd,..)
	%d แทนความหมาย วันที่ของเดือน (01,02,...,31)
	%e แทนความหมาย วันที่ของเดือน (1,2,...,31)
	%Y แทนความหมาย ปีคริสต์ศักราชแบบ 4 หลัก
	%y แทนความหมาย ปีคริสต์ศักราชแบบ 2 หลัก
	%X แทนความหมาย ปีคริสต์ศักราชสำหรับสัปดาห์ซึ่งวันอาทิตย์เป็นวันแรกของสัปดาห์
	%x แทนความหมาย ปีคริสต์ศักราชสำหรับสัปดาห์ซึ่งวันจันทร์เป็นวันแรกของสัปดาห์
	%m แทนความหมาย เดือนที่ของปี (01,02,...,12)
	%c แทนความหมาย เดือนที่ของปี (1,2,...,12)
	%r แทนความหมาย เวลาแบบ 12 ชั่วโมง รูปแบบคือ hh:mm:ss AM|PM
	%T แทนความหมาย เวลาแบบ 24 ชั่วโมง รูปแบบคือ hh:mm:ss
	%H แทนความหมาย ชั่วโมงที่ (00,01,...,23)
	%k แทนความหมาย ชั่วโมงที่ (0,1,...,23)
	%h แทนความหมาย ชั่วโมงที่ (01,02,...,12)
	%I แทนความหมาย ชั่วโมงที่ (01,02,...,12)
	%l แทนความหมาย ชั่วโมงที่ (1,2,...,12)
	%i แทนความหมาย นาทีที่ (00,01,...,59)
	%S แทนความหมาย วินาทีที่ (00,01,...,59)
	%s แทนความหมาย วินาทีที่ (00,01,...,59)
	%p แทนความหมาย AM หรือ PM
	%U แทนความหมาย สัปดาห์ที่ของปี (0,1,...,52) โดยเริ่มนับวันอาทิตย์เป็นวันแรกของสัปดาห์
	%u แทนความหมาย สัปดาห์ที่ของปี (0,1,...,52) โดยเริ่มนับวันจันทร์เป็นวันแรกของสัปดาห์
	%V แทนความหมาย สัปดาห์ที่ของปี (1,2,...,53) โดยเริ่มนับวันอาทิตย์เป็นวันแรกของสัปดาห์
	%v แทนความหมาย สัปดาห์ที่ของปี (1,2,...,53) โดยเริ่มนับวันจันทร์เป็นวันแรกของสัปดาห์
	%% แทนความหมาย %
	example:SELECT DATE_FORMAT(CURDATE(), '%y')+43 as AD